วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[รีวิวอัลบั้ม] X - Chris Brown

คงไม่หยุดแค่ปีที่ 10





ทุกครั้งที่ผมเห็นข่าวฉาวของคริส บราวน์ ทีไรก็อดเสียดายไม่ได้จริงๆ ว่าที่ซุปตาร์อนาคตไกลกลับต้องสะดุด เพราะทำร้ายร่างกาย Rihanna อนาคตของบราว์นก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังตีนทันที หลังจากที่เกิดข่าวฉาวครั้งนั้น ผมก็ไม่ได้ฟังชุด Graffiti อีกเลย รู้สึกผิดหวังเลยล่ะ ตอนที่ออกอัลบั้ม F.A.M.E ออกมา ผมก็ยังไม่กล้าฟังนะ ผิดหวังไม่หาย แต่มีเพื่อนหลายคนแนะนำบวกกับช่วงนั้นเบื่ออยากหาอะไรฟัง ผมก็ลองฟังดู ผมรู้สึกว่า F.A.M.E ทำออกมาได้โอเคอยู่ ฟังได้เรื่อยๆ ส่วน Fortune นั่นเป็นอะไรที่ฉาบฉวยเอามากๆ ชอบง่ายแต่เบื่อไว มีเพลงที่ผมประทับใจแค่ 2-3 เพลงเท่านั้น  จนมาถึงอัลบั้มล่าสุด X  แนวเพลงในชุดนี้มีซาวน์ดแตกต่างจากชุดก่อนอย่าง Exclusive, F.A.M.E และ Fortune อย่างเห็นได้ชัด ดูไม่ mainstream จ๋า ออกไปทางดิบๆ เนื้อหาเพลงก็หลากหลาย มีทั้ง EDM มันส์ๆ ชวนเต้น ยั่วยวน หวือหวา โรแมนติกบ้างนิดๆหน่อยๆ จิกกัดหญิง เปรียบเปรยพรรณาก็ยังมี สะท้อนตัวตนตัวเองได้ดี คอนเซปต์ X คือ ประสบการณ์ทางดนตรีสิบปีตามอักษรโรมันของบราว์น และตัดพ้ออดีตอันเลวร้ายที่ผ่านมาอีกด้วย (อย่าจำสับสนกับ Ed Sheeran อันนั้น Multiply)




X ไตเติ้ลแทร็คเปิดอัลบั้มที่บอกคอนเซปต์อัลบั้มได้เกือบหมดแล้ว ได้ Diplo มาโปรดิวซ์ให้ เป็นจุดออกสตาร์ทได้ดีมาก บีทเลื้อยๆมันส์ๆ กระตุ้นอะดินาลีนได้ดี Add Me In ให้อารมณ์ MJ เวอร์ชั่นล้ำๆ เติมเต็มความฟินได้ดี  




Loyal ซิงเกิ้ลแรกที่ทำออกมา 3 version ทั้ง main version ( Ft. Lil Wanye&Tyga ) west coast (Ft. Lil Wayne , Too Short) และ east coast (Ft.French Montana) ทั้ง 3 เวอร์ชั่นไม่มีความแตกต่างมากซะเท่าไหร่ ต่างกันตรงที่แขกมาฟีท แค่บีทขึ้นเพลงนี่แหล่มได้โลห์มากๆ  ซาวน์ดฮิพฮอพฟังสนุกๆ ไม่น่าเบื่อ บีทหนักๆเถื่อนๆ ได้ฟังกับหูฟังดีๆล่ะก็ สุดยอดไปเลย เป็น First Impression ของผมจริงๆ ฟังแล้วอยากจะขยับแข้งขยับขาเต้นเหมือนในเอ็มวีเพลง เนื้อหาเพลงก็เหน็บแหนม เอ๊ย เหน็บแนมผู้หญิงหน้าเงินนังตัวแสบจนต้องร้อง Ahh This hoes ain't loyal กันทั่วบ้านทั่วเมือง



ตามมาติดๆด้วยซิงเกิ้ลที่สองอย่าง New Flame (Ft.Usher & Rick Ross) ผมไม่ชอบ Beat เพลงนี้ซะเท่าไหร่ ออกแนวโหลไปหน่อยนิดนึง แต่สิ่งที่ช่วยเพลงนี้ได้กลับการร้องดูเอ็ทระหว่างคริส บารวน์ กับ อัชเชอร์นั่นเอง พอจรรโลงใจได้ระดับนึง ส่วนตาอ้วนดำ Rick Ross ไม่จำเป็นสำหรับเพลงนี้ ทั้งสองคนก็เอาอยู่แล้ว




ชวนสาวๆขึ้นสวรรค์ชั้น 7 ด้วยเพลง Song On 12 Plays (Ft.Trey Songz) ว่าที่ซิงเกิ้ลถัดไป โดนใจผู้เขียนอย่างแรง โคตรชอบ ฟังแล้วคลิ้กเลย ริทึ่มกำลังดี โทนสมูท เซ็กซี่อยู่ไม่น้อย แฟนคลับของคริสหลายคนโหวตให้เพลงนี้คือที่สุด และผมเชื่อว่าเพลงนี้ต้องอยู่ในลิสต์ต้นๆของใครหลายคนอย่างแน่นอน 101 Interlude สั้นๆ สไตล์ Trey Songz จ๋าเลย ให้อารมณต่อเนื่องจากแทร็คที่แล้ว 




Drown In It ได้นักร้องที่ฉาวยิ่งกว่าบราวน์อย่าง R.Kelly มาร่วมฟีท contemporary R&B ริทึ่มDeep มากๆ พร้อมที่จะดำดิ่งในหูคุณเต็มที่ Came To Do เอาบีทเพลง Loyal มายำใหม่ จนผมเกือบมโนไปว่า นี่มัน Loyal Pt.2 รึเปล่า แต่ไปสืบมาแล้วไม่ใช่นะฮับ ตัวเพลงดูเป็นมิตรกับผู้หญิงมากกว่า Loyal ให้อารมณ์คล้ายๆ Sean Kingston ได้ Akon มาร่วมแจมให้หายคิดถึง Lady In The Glass Dress เป็น interlude ที่ผมชอบมากที่สุดในชุดนี้ อินโทรมิดเทมโปเท่มาก สั้นๆแต่ได้ใจอยู่ ทุกคนน่าจะชอบ มาต่อด้วยอีกหนึ่งเพลงเด่นประจำชุดนี้อย่าง 


Autumn Leaves ซาวนด์เหมือนเอาเพลงของ Nina Simmons มาแซมเปิ้ล อารมณ์เพลงนี้ตัดพ้อโคตรกวีสุดๆ เปรียบเปรยความรักกับฤดูกาล โชดช่วงในช่วงฤดูร้อน เย็นชาเหมือนฤดูหนาว สุดท้ายก็แยกทางกันเหมือนกับฤดูใบไม้ผลิตามชื่อเพลง ออกแนวขัดกับภาพลักษณ์ของพี่คริสมากๆ ที่ปกติจะไปทางง่ายๆยัดๆเพลงเอาสนุกไม่ต้องคิดมาก สุดท้ายผมก็ชื่นชอบเพลงนี้อยู่ดี มันมีความนุ่มลึกและหนักแน่น ติดหูซะเหลือเกินเมื่อฟังครั้งแรก มันเป็นความแปลกใหม่ของคริส ที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน Kendrick Lamar มาร่วมแร็พได้อย่างยอดเยี่ยม แก้ความเนือยได้ดี ไม่ทำให้ผิดหวัง กล้าการันตีความเจ๋ง 

Do Better R&B จังหวะช้าๆฟังเพลินๆ Brandy ดูเอทร่วม Drunk Texting นี่ก็เจ๋ง เลือกแขกได้ถูกใจมาก เพราะได้ Jhene Aiko อีกหนึ่งคนที่ผมกำลังปลื้มมาร่วมแจมด้วย ทำได้ไม่ผิดหวังจริงๆ Back Vocal มันช่วยให้เพลงมีมิติ ไม่มีเธอคนนี้ เพลงจะดูจืดไปเลย


Don't Be Gone Too Long ได้ Ariana Grande ร่วมร้อง ทำออกมายังไม่ดีเท่าที่ควร ตอนขึ้นเพลงก็ดีนะ แต่ท่อนฮุคมันเหมือนง่ายไปหน่อย มันเหมือนมีอะไรบางอย่างขาดหายไปมาก ใช้แขกรับเชิญไม่คุ้ม Stereotype และ Body Shot EDM มันส์ๆ ซาวนด์ไม่โหลมีมิติ ก็กระตุ้นความมันส์ใช้ได้ See You Around ซาวนด์กีตาร์มาแจมตอนแรกมันดูขัดๆ ผ่านไปเรื่อยๆก็เริ่มโอเคล่ะ ไม่ได้แย่มาก  Time For Love เพลงฟีลกู๊ด แร็พรัวๆ โอเคอยู่

Fine China ซิงเกิ้ลถูกลืมของแท้ ผมรู้สึกประทับใจมากๆ จังหวะฟังก์เพลงนี้โคตรเท่ ซาวนด์กีตาร์ไฟฟ้าก็มีชัยไปกว่าขึ้นแล้ว neo-soul เรียบๆง่ายๆฟังเพลินๆ เจ๋งสุดๆ ถึงเพลงจะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก แต่ก็มีลีลาอยู่ไม่ใช่น้อย ซึ่งก็เอาไปเป็นเพลงแถมใน deluxe version เพลงสุดท้ายเลย เหมาะเหม็งที่จะเป็นเพลงหลักมากกว่าเพลงแถม Lost In Ya Love ก็เหมือนกัน มันชิวเรียบง่ายจังหวะกำลังดี ฟังไปเพลินๆนึกว่าเพลงปิดที่ไหนได้เป็นเพลงแถม


หลังจากที่ฟังอัลบั้ม X แล้ว มันทำให้ผมเห็นพัฒนาการที่เพิ่มขึ้นของ Chris Brown ที่ไม่ได้ย่ำอยู่กับที่ซะทีเดียว ฟังสนุก มีลูกล่อลูกชนพอสมควร จนผมสามารถบอกได้ว่า นี่คืออัลบั้มที่ดีที่สุดของคริส บารวน์ เท่าที่เคยมีมา แต่ยังไม่ถึงขั้น masterpiece มีอะไรพัฒนาอีกเยอะ ต้องจับตาดูไอ้หนุ่มเลือดร้อนคนนี้กันยาวๆ ยังคงมีปีที่ 11 12 ปีต่อๆไปแน่ในวงการเพลง

คงไปได้อีกไกล ถ้าไม่มีข่าวฉาวชุดใหญ่มาสะดุดเสียก่อน


Top Track : Song On 12 Plays (Ft. Trey Songz) , Autumn Leaves (Ft. Kendrick Lamar) , Loyal , X , Drunk Texting (Ft. Jhene Aiko) , Lady In The New Glass (interlude)


Give 8/10         (Variety and Enjoyable)

Thanks For Reading

See Ya


FB : https://www.facebook.com/fungpaifungma

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[รีวิวอัลบั้ม] Barter 6 - Young Thug (พอสังเขป)

จี๊กโก๋สไตล์





มีลูกเพจท่านนึง ขอให้ผมรีวิวอัลบั้มนี้นานมากแล้ว ต้องขอโทษในความ Late ของผมด้วย จัดไปอย่าให้เสีย มาช้าดีกว่าไม่มา Barter 6 ดีบิวต์อัลบั้มแรกของ Young Thug แร็พเปอร์วัย 23 ปีแห่งเมืองแอตลันตา พี่แกถือเป็นแร็พเปอร์ม้ามืดของปีนี้เลยก็ว่าได้ สไตล์การแร็พคล้ายๆ Lil Wayne แต่เสียงของพี่แกจะออกแนวกวนอวัยวะนิดนึง มีเสียงจี๊ดเล็กๆน้อยมาเป็นระยะๆ ฟังแล้วชวนตบกะโหลก ซึ่งต่างจาก Lil Wayne ที่มีเส้นเสียงที่เข้มกว่า ในปีที่แล้วได้ไปร่วมแจมกับ T.I ในเพลง About That Money ซึ่งผมรู้จัก ยังตั๊ก จากเพลงนี้ (ขอเรียกชื่อนี้นะครับ) ไปร่วมแจมกับ Rich Gang โปรเจคต์ใหญ่ของค่าย Cash Money ของเฮียเบิร์ดแมน ซึ่งแร็พเปอร์ซุปตาร์ไม่ว่าจะเป็น Lil Wayne , Drake และ Nicki Minaj อยู่ในสังกัดนี้แทบทั้งสิ้น โดยแจ้งเกิดจากเพลง Lifestyle ที่มี Birdman (มาพล่ามซะมากกว่า) กับ Rich Homie Quan มาร่วมแจมด้วย ในความคิดผมเป็นเพลงตลก ฮาไอ้ยังตั๊ก มันแร็พท่อนฮุกเนี่ยแหละ  ไลฟ์สตายยยยยยย แลมโบกีเนี่ยยยยยยย ขำโคตร อยากให้ผู้อ่านลองไปฟังดู 

สำหรับอัลบั้ม Barter 6 ใครที่ติดตามข่าวที่ผมโพสในเพจ คงทราบกันดีว่า มีประเด็นฉาวดราม่าในเรื่องปัญหาการตั้งชื่ออัลบั้มชุดนี้ด้วย ซึ่งพี่แกดันไปมีกับแร็พเปอร์ไอดอลของตัวเองอย่าง Lil Wayne ชื่อเดิมของอัลบั้มชุดนี้ชื่อว่า Carter 6 มันดันไปซ้ำกับอัลบั้มมหากาพย์ที่เคยสร้างชื่อให้กับ Lil Wayne เห็นแบบนี้ เฮียลิลเวยน์ก็ฉุนอยู่ไม่น้อยที่" ยังตั๊ก" ดันขโมยความคิดของตัวเองไป จนเจ้าตัวต้องออกโรงขู่ฟ้องร้อง แถมแอบให้สัมภาษณ์จิกกัดแร็พเปอร์รุ่นน้องอีกต่างหาก โดยบอกกับนักข่าวว่า พวกมึงทั้งหลาย อย่าไปฟังอัลบั้มที่มีหน้าปกไอ้ชายแก้ผ้าล่อนจ้อน ทำเอายังตั๊กแอบเซ็งอยู่ไม่น้อย แขวะกันไปกันมาผ่านทวิตเตอร์ จนตอนนี้ข่าวคราวของทั้งคู่ก็เริ่มซาลง 

Perception ของข้าพเจ้าครั้งแรกที่มีต่ออัลบั้ม Barter 6 ของ Young Thug คิดว่าเพลงในอัลบั้มส่วนใหญ่จะออกไปในทางอันเดอร์กราว เถื่อนมากๆ  บีทดังกระหึ่ม จังหวะหนักหน่วง ตามสไตล์แก๊งส์เตอร์ แต่พอฟังอัลบั้มชุดนี้ ผิดคาด จังหวะเพลงค่อนข้างลื่นหู เล่นบีทไม่โฉ่งฉ่างเกินไป แลดูซอฟต์แต่ก็ยังไม่ทิ้งลายความเป็นแก๊งส์เตอร์ เปิดอัลบั้มด้วย Constantly Hating มาแบบเรียบง่ายๆ บีทตบเบาๆ แท็ปแร็พ ได้ Birdman มาร่วมแร็พแจม ยังดีหน่อยที่ไม่มาบ่นพล่ามเหมือนเพลงแจมเพลงอื่น 

With That แร็พเปลี่ยนน้ำเสียงไปในโทนเถื่อนๆ แต่จังหวะเพลงยังคงเรียบไม่หนักหน่วง แทร็คถัดไปอย่าง Can't Tell ที่ได้ T.I และ Bossie BadAzz มาร่วมแจม แค่เห็นแขกรับเชิญก็น่าจะรับประกันความมันส์ได้ในระดับนึง ที่ไหนได้ กลับมาแนวเรียบๆเช่นเคย บีทเบาๆ แต่จังหวะเพลงเท่ห์อยู่ไม่น้อย ไม่จำเป็นต้องอาศัยบีทแรงๆ อิมแพคหนักหน่วง ก็เป็นเพลงที่เท่ห์ได้ไม่ยาก 




Check อาศัยซาวน์ดเปียโนทำให้เพลงมีความรื่นรมย์ขึ้นมาในระดับนึง การแร็พก็เข้ากันได้ดีกับจังหวะเพลง อื้มแทร็คนี้ก็เด่น Dream สไตล์ลิล เวยน์ จ๋ามาแต่ไกล Dome มาแบบอึมครึม เพี้ยนนิดๆ โดยเฉพาะท่อนฮุก ยอออออออออ เย เย เย ยอออววววววว ได้แร็พเปอร์ใต้ดิน Duke มาร่วมแจม เพิ่มความเถื่อนเข้าไปอีก




เมายาต่อในเพลง Halftime ชื่อนี้เป็นแสลงมาจากยาสองชนิด Percocet และ Xanax อย่าไปลองนะครัช เพลงยังมาแบบเบาๆ เสียงร้องของยังตั๊กวนเวียนอยู่ในหัว คล้ายๆคุณกำลังโดนยาดังกล่าวปั่นหัวคุณเล่นอยู่ อย่าไปลองนะครัช ขอย้ำอีกรอบ เปลี่ยนแนวมาเป็นแร็พสไตล์แอฟริกันนิดๆด้วยเพลง Amazing 

Knocked Off ได้แขกกิตติมาศักดิ์ ท่านเบบี้ Birdman มาร่วมแจมอีกรอบ มีบทบาทมากขึ้นจากเพลงก่อน OD เสพยาต่อเพื่อให้ลืมเรื่องร้ายๆในอดีต ที่เพื่อนร่วมวงของยังตั๊กโดนฆ่าตาย รวมไปถึง Micheal Brown หนุ่มผิวสีที่ถูกตำรวจผิวขาวฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม เนื่องจากเขาแค่ขโมยบุหรี่ ซึ่งดูเป็นเรื่องเล็กๆน้อย แต่ตำรวจพวกนั้นกลับทำเกินไป แทร็คปิดท้ายอย่าง Just Might Be ยังตั๊กโชว์แร็พรัว ชอบมาก อย่างน้อยการแร็พดูมีลูกเล่นอะไรให้น่าจดจำบ้าง รัวแบบไม่มั่วซั่วด้วย


Barter 6 โดยรวมแล้วถือว่า ฟังได้เรื่อยๆก็แล้วกันครับ ดนตรีไม่หนักหูอย่างที่คิด บีทไม่โหล ฟังเพลิน การแร็พก็ออกไปในทางยียวน กวนประสาท พอเล่นคำได้บ้างอะไรบ้าง การโห่ร้อง ทำเสียงเจี๊ยวจ๊าวของมัน ช่วยให้เพลงดูมีสีสัน ฟังตั้งแต่ต้นจนจบให้ความรู้สึกที่ไม่หวือหวามากนัก ให้อารมณ์เรื่อยๆ ไม่แย่ ไม่พีคซะทีเดียว เนื้อหาก็วนเวียนอยู่กับเรื่องชีวิตของนักเลงข้างถนน ยังดีที่บางเพลงพอมีมุุมมองให้ความรู้สึกเห็นใจกับผู้คนเหล่านี้อยู่บ้าง ถึงแม้ว่าจะพูดถึงมุมมองเหล่านี้น้อยเกินไป แต่ก็ยังดี เป็นอีกหนึ่งแร็พเปอร์จิิ๊กโก๋ เจี๊ยวจ๊าวที่มีของอยู่ไม่น้อย สกิลการแร็พพอเทียบรัศมีลิล เวยน์ ได้เลยล่ะครับ สิ่งที่ทำให้ Barter 6 เหนือกว่าลิล เวยน์ในบางเรื่องก็คือ การเล่นซาวนด์ดนตรีที่ไม่หนักหูจนเกินไป ทำให้ผู้ฟังรู้สึกคล้อยตามและพยายามฟังต่อไปเรื่อยๆมากกว่า เพลิดเพลินเจริญหูเข้าไว้ ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง


เน้นฟัง ไม่เน้นมันส์


Top Tracks : Can't Tell , Check , Dome , Just Might Be

Give 6.5/10