[รีวิวอัลบั้ม] The Hunting Party - LINKIN PARK

การไล่ล่าความมันส์ กำลังจะเริ่มต้นขึ้น !!!

ยอมรับเลยว่า ผู้เขียนเป็นสาวกของวงนี้มาตั้งแต่ประถม ผู้เขียนจำได้ว่าอัลบั้ม Meteora เป็นอัลบั้มเพลงชุดแรกที่ผมแบมือขอตังพ่อแม่ ซื้อแผ่นแท้ ปกติผู้เขียนจะชอบซื้อชุดรวมฮิตหลากหลายศิลปิน แต่นี่เป็นศิลปินวงแรกที่ผมยอมเปิดใจฟังเพลงของพวกเขา ว่าง่ายๆเลยว่าวงนี้เปลี่ยนชีวิตและทัศนคติผม ณ ปัจจุบันผมเองก็ยังซื้อและติดตามวงนี้อยู่เสมอ ถึงแม้ว่าอัลบั้ม 3 ชุดหลังถัดจาก Hybrid Theory กับ Meteora จะดูดรอปลงก็ตาม แต่ผมก็ยังชื่นชอบวงนี้ ชอบตรงที่วงนี้มีความคิดสร้างสรรค์ อัจฉริยะ หัวก้าวหน้า มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง กล้าคิดกล้าทำ กล้าได้กล้าเสีย และที่สำคัญนักดนตรีแต่ละคนก็โคตรเก่งเลย แถมนักร้องนำมีทั้งแร็พกับฮาร์ดคอ ว้าว นับว่าหายากมากๆในวงการดนตรียุคปัจจุบัน และที่สำคัญปรับตัวได้เก่งมากตามยุคสมัย จนสามารถยืนหยัดอยู่ในวงการเพลงทุกวันนี้ นี่แหละครับคือสิ่งที่ผมสามารถการันตีได้เลยว่า วงนี้เป็นวงดนตรีร็อคขวัญใจชาวโลกตัวจริง

มาพูดถึงเลยดีกว่ากับอัลบั้มชุดที่ 6 ชุดใหม่ล่าสุดของวงร็อคขวัญใจชาวสยาม LINKIN PARK (ขอเรียกลิงกันผัก)ที่มีชื่อว่า The Hunting Party ซึ่งอัลบั้มชุดนี้ทางวงเองก็อยากได้อะไรเดิมๆกลับมา ไมค์ ชิโนดะถึงกับบอกว่า " มันมีจุดนึงเมื่อปีที่แล้วตอนที่ผมกำลังทำเพลงอยู่ ผมฟังมันแล้วก็พบว่าทุกอย่างมันผิดไปหมด ผมไปคาดการณ์เอาเองว่า อะไรที่ผมต้องการจะฟัง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากจะทำ" นั่นเป็นสัญญาณที่ดีแล้วล่ะครับว่า วงนี้เค้าจะกลับสู่รากเดิมแล้ว ไม่เอาแล้วกับ Electronic ใครที่คิดว่าอัลบั้มชุดนี้ลิงกินผักคงทำเพลงที่ซอฟต์ลง ไม่สามารถพัฒนาความมันส์ไปมากกว่านี้แล้ว เปลี่ยนความคิดใหม่เสียเลย เพราะชุดนี้ได้โยกหัวจนหลุดกระจุยแน่นอน ร็อคจัดจ้านขึ้น ดิบขึ้น โหดขึ้น แบบไม่ต้องแคร์สังขารของสมาชิกในวงเลยทีเดียว อัลบั้มชุดนี้ไมค์ ชิโนดะ ยังคงอำนวยการผลิตอีกเช่นเคย (เอ้า ก็หัวหน้าวงนี่หว่า) Brad Delson มือกีตาร์มือฉมังมีส่วนสำคัญมากขึ้นในการโปรดิวซ์อัลบั้มชุดนี้ (ไม่ได้เรียกใช้บริการจากฤาษี Rick Rubin แล้ว) งานนี้ชาวร็อคและแฟนเพลงทั้งหลายต้องสะใจแน่นอน

ส่วน Artwork อัลบั้มชุดนี้ทำได้สวยสดงดงามและอาร์ตกว่าชุดที่แล้ว รังสรรค์โดยโจฮานอีกเช่นเคย เป็นรูปปั้น 3 มิติอยู่บนเพดานมีธนูถืออยู่ด้วย น่าจะหมายความว่า วงนี้เค้าพร้อมแล้วที่จะไล่ล่าความเป็นร็อคกลับมาให้แฟนเพลงแล้ว ในปกในก็มีผลงานศิลปะสวยๆให้ได้เสพกันเพลินๆแบบไม่มีเนื้อเพลงมาคั่น และยังมีคำโปรยที่คลุมคอนเซปต์อัลบั้มชุดนี้อย่างมีนัยสำคัญ ผมยกให้artwork อัลบั้มชุดนี้เท่และสวยที่สุดเท่าที่เคยมีมาของวงลิงกินผักเลยครับ 

มาเริ่มบรรเลงความมันส์กับ Keys To The Kingdom เฮียเชสเตอร์ว๊ากท่อนฮุค No Controllllll ผ่านออโต้จูน ลากยาวเปิด Intro ตามด้วยการเดินกลองมันส์ๆของพี่ Rob ทำให้รู้สึกคึกทันที การเดินกลองโคตรเจ๋งเลยและตบด้วยกีตาร์ไฟฟ้ามันส์ๆ และเบรคด้วยเสียงร้องสลับการแร็พอย่างเมามันส์ของไมค์ ก่อนที่จะกระแทกด้วยเสียงว๊ากของเชสเตอร์แบบไม่พึ่งออโต้จูนชวนขนลุก นับว่าเป็นแทร็คเปิดตัวที่มันส์มากๆ เหมือนได้กลิ่นอายความเป็น LP เก่ากลับคืนมา 

จัดความมันส์กันต่อด้วยเพลง All For Nothing rap rock ซาวด์สุดเฮฟวี่ ไมค์แร็พได้มันส์ดี และยังได้ Page Hamilton นักร้องนำวง Helmet มาร่วมร้องท่อนฮุคได้อย่างมันส์เร้าใจโคตรๆ ส่วนเชสเตอร์ก็คอยเป็นแบ็คอัพกอสเปลให้ สุดยอด

จัดหนักกันต่อด้วยซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มชุดนี้อย่าง Guilty All The Same ตอนแรกที่ผมฟังเพลงนี้ เฮ้ย ! ซาวน์ดดุโคตร ดูไม่เป็นเมนสตรีมเลย นับว่ากล้ามากๆทีลิงกินผักจะหลีกหนีความเป็นเมนสตรีมอย่างเห็นได้ชัด ไม่ได้ทำเพลงเพื่อไปเปิดทางวิทยุแล้ว ส่วนเนื้อหาก็เหมือนหลอกด่าตัวเองชัดๆ สิ่งที่กรูทำมามันในชุดที่ผ่านมาผิดไปหมดเลย คราวนี้พี่ไมค์ขอมอบหน้าที่แร็พให้กับแร็พเปอร์ในตำนานและเป็นไอดอลของพี่ไมค์อย่าง Rakim มาช่วยแร็พให้ ตอนแรกๆผมฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ แต่ลองฟังไปนานๆ เห้ย มันเข้ากันได้ดีมาก พี่แกแร็พได้เทพโคตร 

สงสัยผมต้องไปย้อนฟังผลงานเก่าๆของเฮียราคิมซะแล้ว 

The Summoning Instrumentสั้นๆ ออกแนวคล้ายๆผลงานเก่าๆอย่าง A Thousand Sun เลย ฟังคั่นเวลาก่อนเข้าเพลงต่อไป  แทร็คยาว 2 นาทีที่อุดมไปด้วยซาวน์ดิบๆ ดิบและเถื่อนที่สุดในชุดนี้เลยก็ว่าได้ เชสเตอร์ตะโกนแหกปากร้องเกือบทั้งเพลง แบบไม่กลัวเส้นเสียงแตกเลย เป็นแทร็คสั้นๆที่ทำออกมาได้มีประสิทธิภาพมาก เต็มอิ่ม

Wastelands แร็พร็อคจังหวะกลางๆ เปิดอินโทรด้วยกลองอิเล็กโทรนิกส์ติดหูของพี่ฮาน ซาวน์กีตาร์ไฟฟ้าชวนให้โยกตาม ผมชอบท่อนแร็พของไมค์ในเพลงนี้มากๆฮะ ดูเข้ากันได้ดี ช่วยดึงให้เพลงมีสีสันดี 

Until It’s Gone ซิงเกิ้ลที่ 2 ผมว่าเพลงนี้เมนสตรีมจ๋าที่สุดในอัลบั้มชุดนี้ ไปเปิดออกอากาศในวิทยุได้ ตอนแรกผมฟังก็ชอบนะ แต่พอได้มาฟังทั้งอัลบั้ม 

ผมกลับรู้สึกว่าเพลงนี้มันเบามาก 

Rebellion เพลงนี้ผมต้องยกความดีความชอบให้กับแขกรับเชิญอย่าง Daron Malakian มือกีตาร์จากวง System Of A Down รีฟกีตาร์เปิดอินโทรได้เมพโคตรๆ ซาวน์กีตาร์เป็นลูกคลื่น มีมิติ พริ้วมากๆ ซาวน์ดไม่รกหูจนเกินไป ถ้าได้ฟังกับหูฟังแพงดีๆจะเจ๋งมาก คราวนี้พี่ไมค์ขอพักแร็พมาโชว์ร้องคู่กับเชสเตอร์บ้าง ท่อนฮุคติดหูดี ฟังครั้งแรกแล้วมันใช่เลย เป็นการก่อกบฎที่มันส์เร้าใจจริงๆ ผมยกให้เพลงนี้มีภาคดนตรีที่เด็ดที่สุดประจำชุดนี้ไปเลยครับ ขอสามคำให้กับเพลงนี้ "มันส์ได้ใจ" "กีตาร์เด็ด"

Mark The Graves เพลงนี้อินโทรยาวพอๆกับ Guilty All The Same เลย ตอนแรกคิดว่าจะมาสบายๆ แต่ที่ไหนได้กับกระแทกของโหดซะงั้น เพลงนี้เด่นตรงที่การประสานเสียงครับ ส่วนเรื่องภาคดนตรีไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว 

มันส์กันจนนาทีสุดท้าย

 เบรคความมันส์ซะพักด้วย score ที่ 2 อย่าง 

Drawbar เสียงเปียโนเคล้าด้วยเสียงกีตาร์โปร่งแหลมๆที่บรรเลงโดย Tom Morello สมาชิกวง Rage Against The Machine ฟังเพลินๆเป็นการผ่อนคลาย

Final Masquerade ซิงเกิ้ลที่ 3 ของอัลบั้มชุดนี้ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดของอัลบั้มชุดนี้เลยก็ว่าได้ บัลลาดร็อคที่มีความหนักแน่นและแข็งแรงมาก แฟนเพลงวงลิงกินผักบางคนในตปท.ยกย่องให้เพลงนี้เป็นบัลลาดร็อคที่ดีที่สุดของวงนี้เลยทีเดียว ซึ่งนั่นก็จริงครับ ผมชอบเพลงนี้มากๆ เพราะดี เนื้อหาก็ดีมากๆ เลิกปิดบังตัวตนของตัวเองเสียที ถึงเวลาต้องแยกจากกัน ทางใครทางมันจะดีกว่า แทร็คนี้ห้ามข้าม

A Line In The Sand มาถึงแทร็คปิดท้ายแล้ว เปิดอินโทรด้วยเสียงพายุทะเลทราย ให้ความรู้สึกดาร์กๆ เคว้งคว้าง เงียบสนิท ทำให้ผมนึกถึงสไตล์เพลงในอัลบั้ม A Thousand Sun เลย เสียงพี่ไมค์เพราะมากๆ ฟังแล้วเคลิ้มเลย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเพลงจะออกไปในแนวช้า จบไปแบบง่ายๆหรอกนะฮะ ดนตรีเค้าจัดโหดให้ได้มันส์สะใจกันอีกรอบ เป็นแทร็คที่มีของดีอยู่ในตัวชัดๆ มันเป็นการเอาเพลง Victimize และ Guilty All The Same มามิกซ์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว มันส์กันต่อเนื่องนานนับ 5 นาที เชสเตอร์ตะโกนแหกปากแบบจัดเต็ม และที่สำคัญผมขอชื่นชมการเดินกลองของพี่ Rob ที่ทำได้เจ๋งและโหดมากๆ นับว่าเป็นแทร็คปิดท้ายที่จัดหนัก ทำได้อย่างสมศักดิ์ศรีสมกับการกลับมาของลิงกินผักจริงๆ

การกลับมาครั้งนี้ของลิงกินผักในครั้งนี้ ขอบอกเลยว่า สุดยอดมากๆ จัดหนักจัดเต็มกว่าอัลบั้มชุดที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ซาวน์ดดุและดิบจนเกือบจะเป็นเมทัลกันเลยทีเดียว สมาชิกทุกคนในวงสามารถดึงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ นับว่าอัลบั้มชุดนี้เกิดจากแรงขับภายในของทุกคนในวงอย่างแท้จริง ทุกคนล้วนมีบทบาทสำคัญที่ทำให้อัลบั้มชุดนี้ ออกมามันส์สะใจ ได้ใจแฟนเพลงอย่างผมไปเต็มๆ The Hunting Party มีความใกล้เคียงกับ 2 อัลบั้มแรกเอามากๆ แต่แตกต่างตรงที่ชุดนี้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ดิบขึ้น ในทางที่ควรจะเป็น แต่ยังไม่สามารถเอาไปเปรียบเทียบกับ2ชุดแรกได้ ถ้าพูดจริงๆแล้วชุดนี้ยังไม่คลาสสิคเท่ากับ 2 ชุดนั้นอย่างแน่นอน และอีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะแนะนำอีกก็คือ อัลบั้มนี้ควรฟังเต็มอัลบั้มตั้งแต่แทร็คแรกยันแทร็คสุดท้ายครับ จะได้อารมณ์ที่ต่อเนื่องกว่าฟังเป็นซิงเกิ้ลแยกเป็นเอกเทศ ต้องขอยืนยันเลยว่าทุกเพลงไม่มีเพลงไหนแย่หรือต่ำกว่ามาตรฐาน 3 ดาวเลย ส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 4-5 ดาวทั้งนั้น บางเพลงฟังแล้วรู้สึกอะดีนาลีนสูบฉีดทันทีก็ยังมี บางทีใครที่เคยบอกเลิกวงนี้ไปนานแล้ว ถ้าลองได้ฟังอัลบั้มชุดนี้ คุณอาจจะเปลี่ยนใจกลับมาบอกรักพวกเขาเหมือนเดิมก็ได้

น่าจะแสดงให้เห็นแล้วว่า วงนี้เค้ายังมีศักยภาพอันล้นเหลือและมีพลังอันสูงส่งจริงๆ 

Top Tracks : Final Masquerade , Rebellion , A Line In The Sand , All For Nothing  และ Guilty All The Same
Give (8.5/10) Explosive Album  Don't Miss !

Thanks For Reading

See Ya