วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2559

[รีวิวอัลบั้ม] King Push : Darkest Before Dawn (The Prelude) - Pusha T

ก่อนรุ่งสาง



Terrence Thornton แร็พเปอร์ม้ามืดแห่งนิวยอร์คซิตี้ที่รู้จักกันในนามของ Pusha T แร็พเปอร์เด็กปั้นของ Kanye West แห่งสำนัก G.O.O.D Music (ซึ่งเฮียพุชเป็นประธานค่ายคนล่าสุดไปแล้วเรียบร้อย) กลับมาอีกครั้งในสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 3 ที่มีชื่อว่า King Push : Darkest Before Dawn (The Prelude) โปรเจคต์เรียกน้ำย่อยก่อนเข้าสู่โปรเจคต์ใหญ่สตูดิโอชุดที่ 3 ในนาม King Push ที่จะรีลิสภายในปี 2016 นี้ ถึงแม้ว่าเฮียพุชเป็นแร็พเปอร์ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก แต่เฮียพุชเป็นแร็พเปอร์ที่น่าจับตามอง ไม่ควรมองข้ามเลยล่ะไม่เพียงแต่เป็นเด็กปั้นที่ขึ้นตรงต่อคานเยเพียงอย่างเดียว แต่ผลงานเพลงในอัลบั้มชุดที่ผ่านมาอย่าง My Name Is My Name มีอะไรที่แปลกใหม่และแตกต่างกับแร็พเปอร์เจ้าอื่นพอสมควร ดูได้จากซิงเกิ้ลจากอัลบั้มไม่ว่าจะเป็น Numbers On The Board , Sweet Serenade , Hold On , Suicide และ Nosetalgia จะเห็นได้ว่าเพลงของเฮียพุชมีลูกเล่นซ่อนอยู่มากมาย ไม่ได้มีดีแค่บีทเพียงอย่างเดียว การเล่นคำในเพลงก็ไม่ธรรมดาจริงๆ มีกึ๋นมากพอสมควร ความแปลกใหม่ของงานเพลงเนี่ยแหละที่ทำให้แฟนเพลงฮิพฮอพอย่างเราจับตามองอัลบั้มชุดต่อไปของเฮียพุชว่า จะมีอะไรเด็ดๆซ่อนอยู่ให้ผู้ฟังได้ตื่นตาตื่นใจเหมือนอัลบั้มชุดที่แล้วอีกหรือไม่ 




แผนโปรโมทอัลบั้มชุดนี้ก็ไม่ธรรมดา มีการทำหนังสั้นความยาว 22 นาทีด้วย โดยหนังสั้นดังกล่าวมีชื่อเดียวกันกับอัลบั้ม มีตัวอย่างเพลงจากอัลบั้มมาให้ฟังกันเนืองๆ เนื้อหาประมาณว่าเฮียพุชกับเพื่อนสนิทอีกคนนึงเป็นพ่อค้าผงขาว (เฮียพุชชอบเอามาพูดถึงบ่อยในเพลง) ไปตกลงทำการค้ากับเจ้าพ่อรายนึงซึ่งเป็นตัวโกงในเรื่องนี้ ค้าไปค้ามาจนทั้งคู่ได้ดิบได้ดี แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าพ่อกลับอิจฉา จึงสั่งฆ่าเพื่อนสนิทของเฮียพุช เฮียพุชคิดจะแก้แค้น บุกไปฆ่าในโบสถ์ แต่เจ้าตัวกลับไม่ทำ เหมือนคิดได้อะไรบางอย่าง ดูแล้วก็แอบงงนิดนึง ในความเข้าใจของผมคิดว่าเฮียพุชกำลังต่อสู้กับด้านมืดของตัวเองอยู่ พอจัดการกับด้านมืดของตัวเองได้ เหมือนมีชัยชนะ เป็น King อยู่เหนือด้านมืดทั้งหลายทั้งปวงได้ 


อัลบั้มชุดนี้มีทั้งหมด 10 แทร็ค ดูเหมือนน้อย แต่เปี่ยมด้วยคุณภาพ เรายังคงได้เห็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจจากอัลบั้มชุดนี้อีกเช่นเคย โปรดิวซ์เซอร์หลักยังคงเป็น Kanye West , Timbaland และ Puff Diddy โทนเพลงดาร์กเกือบทั้งอัลบั้ม และยังฟังยากอีกเช่นเคย เริ่มจาก Intro เปิดอัลบั้มชุดนี้มาแบบฮึกเหิมเป็นการประกาศศักดาไปในตัว บีททรงพลัง ฟังแล้วขนลุก เปิดสั้นๆแต่แหล่มมากๆ อินโทรอัลบั้มยังมาพร้อมคำถามสบประหม่าสุดคลาสสิค ที่ตามหลอกหลอนเฮียพุชช่าตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นดูโอ้กรุ๊ปวง Clipse ที่ทำร่วมกับพี่ชาย เอ็งอยากเป็นอะไรกันแน่ คนค้ายา ปีศาจ หรือแร็พเปอร์ ว่าแต่เอ็งจะรักษา culture ได้จริงรึ สุดท้ายก็ชัดเจนครับ เลือกที่จะแร็พเปอร์ดีกว่า




ต่อด้วย Untouchable ซิงเกิ้ลแรกประจำอัลบั้มชุดนี้ ได้ Timbaland มาโปรดิวซ์ให้ เมโลดี้บิดเบี้ยว จังหวะชวนโยก แปะด้วยแซมเปิ้ลเพลง Think Big ของ Biggie Small แร็พเปอร์ในตำนานผู้ล่วงลับ ไอดอลคนโปรดของเฮียพุช โจมตีค่าย Cash Money พร้อมจิกกัดพวกอวดรวยเพื่ออยากดังมีหน้ามีตาในสังคม ในเพลง M.F.T.R ซึ่งย่อมาจาก More Famous Than Rich เพลงนี้ถือเป็นแทร็คเด่นประจำอัลบั้มชุดนี้ บีทกับการแร็พไหลลื่นมากๆครับได้ The Dream นักร้องค่ายเดียวกันมาร่วมร้องท่อนฮุกแจม 






Crutches Crosses Casket (All I See Victim) บีทออกแนวฉวัดเฉวียน แปลกๆ เพลงนี้ก็เด็ดเรื่องการเล่นคำและ punchline  จิกกัดวงการเพลงในปัจจุบันที่ศิลปินหลายคนๆกลายเป็นเหยื่อของอุตสาหกรรมงานเพลงอย่างหนีไม่พ้น แต่เฮียพุชกลับมั่นใจ ไม่ตกเป็นทาสอย่างแน่นอน 


M.P.A อันย่อมาจาก Money Pussy Alcohol เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมตั้ง expectation ไว้สูงมากๆ แขกรับเชิญแม่งระดับซุปตาร์ มีทั้ง Kanye West (ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์เพลงนี้ด้วย) A$AP Rocky และ The Dream แถมได้ J.Cole มาโปรดิวซ์เสริมทัพคานเยอีกต่างหาก ฟังครั้งแรกผมเองก็แอบผิดหวังนะ คิดว่า เพลงยาว 5 นาทีกว่าอย่างน้อยแขกรับเชิญน่าจะได้แร็พกันคนละท่อน ที่ไหนได้แต่ละคนร้องกันแค่ไม่กี่ท่อนเอง ปล่อยให้เฮียพุชของเราแร็พสามท่อนรวด ที่เหลือมาแย่งร้องตรงท่อนฮุก ฟังครั้งแรกแอบแปลกใจว่าเพลงแม่งจบแล้วหรอว่ะ คนอื่นแม่งยังไม่ได้แร็พห่าไรเลย ดนตรีก็ออกแนวเนิบๆช้าๆ เฮียพุชใช้แขกรับเชิญได้ไม่คุ้มค่าไรเลย แต่ผมเองก็ต้องลองฟังหลายรอบดูครับ ค้นพบข้อดีบางอย่างของเพลงนี้ จุดแข็งของเพลงนี้คือ เจ้าของเพลงต่างหากครับที่คุมเพลงได้อยู่มัดทั้งเพลง โดยไม่ต้องอาศัยแขกรับเชิญมาแร็พแย่งซีนกัน ปล่อยให้ไหลคนเดียว มีการเปลี่ยนโทนในท่อนสามให้ดาร์กขึ้น การแร็พก็เกรี้ยวกราดตาม  ถึงเพลงจะค่อนข้างเนิบนาบ แต่พอฟังหลายครั้งกลับติดใจอย่างแปลกประหลาด มันเป็นเพลงที่เบรคของหนักจาก 4 เพลงที่แล้วได้ดีทีเดียว จะว่าไปแล้วเพลงนี้แลดูซอฟต์ก็จริง แต่เนื้อหาก็แอบประชดประชันอยู่ไม่น้อย ประมาณว่า ไอ้เงิน จิมิ๊ แอลกอฮอลล์ เนี่ยแหละมันจะมอมเมาชีวิตมึงอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเลยล่ะ เป็นเพลงที่ใช้แขกไม่คุ้ม แต่ก็ยอมรับได้ ด้วยเหตุผลที่มาจากความสามารถของเจ้าของเพลงล้วนๆ




Got'Em Covered บีทโดดเด้ง ทำให้นึกถึงเพลง Numbers On The Board จากอัลบั้มชุดที่แล้ว ได้ Ab-Liva แร็พเปอร์เพื่อนสนิทมาร่วมแจม เนื้อหายังว่าด้วยเรื่องค้าผงขาว เข้าสู่โหมดดาร์กในเพลงต่อไปอย่าง Keep Dealing ได้ Beanie Sigel มาร่วมแจม Puff Diddy อำนวยการโปรดิวซ์ บีทเคล้าคลอด้วยเปียโนหลอนๆ ไม่แปลกใจเลยว่าเพลงนี้มีความคล้ายคลึงกับ Who Shot Ya ของ Biggie Small เพราะมาจากโปรดิวซ์เซอร์เจ้าเดียวกันนั่นเอง Retribution ดูเหมือนเพลงนี้จะเป็นแร็พที่ป็อบจ๋าที่สุดในอัลบั้มชุดนี้ได้แร็พเปอร์สาวหน้าใหม่มาแรงอย่าง Kelahni มาร้องท่อนฮุกแจม ท่อนฮุกติดหูทำเอาขนลุกอยู่ไม่น้อย


FIFA เป็นเพลงที่มันส์และติดหูครั้งแรกที่ได้ฟัง ชอบจังหวะกลอง คึกคักสมเป็นเพลงแข่งบอล แต่ดูจากเนื้อหาเพลงแล้วไม่น่าจะใช้ประกอบพิธีได้ เพราะลิ้งก์ไปเรื่องธุรกิจค้ายาไปเรื่อย เพลงนี้มีแร็พเปอร์แห่ง A Tribe Call Quest อย่าง Q-Tip โปรดิวซ์ให้ด้วย ปิดท้ายด้วย Sunshine แทร็คปิดอัลบั้มที่ผู้ฟังรู้สึกได้ถึงแสงสว่างที่สาดส่องลงมา หลังจากที่ 9 แทร็คที่ผ่านมาดาร์กซะเหลือเกิน ถึงชื่อเพลงจะออกแนวมองโลกสวย แต่ไม่โลกสวยอย่างที่คิด เพราะเฮียพุชเองซัดประเด็นปัญหาตำรวจเหยียดผิวอยู่ ซึ่งเป็นปัญหาสุดคลาสสิคของชาวผิวสีในสังคมมะกัน ได้นักร้องอาร์แอนด์บีในตำนาน Jill Scott มาร้องท่อนฮุกแจมด้วย ถือเป็นเพลงปิดท้ายที่ให้ผู้ฟังได้ขบคิดกันต่อไปด้วย เจ๋งดี


ฟังจนจบอัลบั้มแล้ว 10 แทร็คที่ยาวนานแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น กลับรู้สึกว่า อัลบั้มปฐมบท King Push ชุดนี้ ให้ความรู้สึกเต็มอิ่ม ไม่ขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด เอียพุชสามารถพาผู้ฟังได้ตลอดรอดฝั่งทั้งสิบแทร็คแบบไม่สะดุด ถึงจะดาร์กทั้งอัลบั้ม แต่ก็ดาร์กแบบไม่เลี่ยน และไม่ออกแนวยัดเยียดจนเกินไป การแร็พที่ยังคงความดุดัน เกรี้ยวกราด และเล่นคำได้อย่างฉลาด มีพัฒนาการมากขึ้นจากอัลบั้มชุดที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด แค่นี้ก็เป็นการประกาศศักดาของ Kingpin Overload ที่สมศักดิ์ศรีมากพอแล้ว ใครที่ยังไม่เคยฟังผลงานของเฮียพุชมาก่อน เพลงพี่แกอาจจะเก็ตยากนิดนึง เพราะบีทมาแหวกแนวมากๆ ไม่เหมือนเพลงฮิพฮอพอันเดอร์กราวทั่วไป แต่พอฟังไปหลายรอบก็ค้นพบความเจ๋งเอง ความแตกต่างจากชาวบ้านเนี่ยแหละน่าจะเป็นจุดแข็งของอัลบั้มชุดนี้ที่ทำให้ผมพร้อมที่จะรออัลบั้มชุดต่อไป แอบหวั่นอยู่เหมือนกันครับว่า อัลบั้มบิ๊กโปรเจคต์อย่าง King Push จะทำออกมาได้ดีกว่าชุดนี้รึเปล่า เพราะชุดนี้ตั้งมาตรฐานไว้สูงพอสมควร  คำว่า Darkest Before Dawn นั้นดูเหมือนว่า เฮียพุชค่อนข้างจะมั่นใจพอสมควรว่า อัลบั้ม King Push ของเขาจะทำให้วงการฮิพฮอพนั้นรุ่งเรืองอีกครั้ง เนื่องจากอัลบั้มของเฮียแกจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่และเป็นอะไรที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนแน่นอน ทีนี้ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่า เฮียพุชจะนำแสงสว่างมาสู่วงการฮิพฮอพสมราคาคุยหรือไม่


ต้องติดตามตอนต่อไป



Top Tracks : M.F.T.R , M.P.A , FIFA , Sunshine

Crutches Crosses Casket , Intro , Untouchable

 
Give  8/10


FB >>> https://www.facebook.com/fungpaifungma/





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น