King Kunta แร็พสไตล์ฟังก์จังหวะชวนโยกโคตร ๆผมเชื่อว่าหลายๆคนน่าจะชอบเพลงนี้อยู่ไม่น้อย ไม่แปลกใจที่เพลงนี้ถูกตัดเป็นซิงเกิ้ล เนื้อหาตัดพ้อเพื่อนที่ทรยศ อิจฉาริษยา ถามหามิตรภาพที่แท้จริง
I remember you was conflicted, misusing your influence. Sometimes, I did the same
Situation had stopped with your little sister bakin'
A baby inside, just a teenager, where your patience?
Where was your antennas, where was the influence you speak of?
You preached in front of 100,000 but never reached her
ฟังยากแต่เด็ดดวงของแท้
Alright แทร็คนี้ปลอบโยนความหนักหน่วงจากเพลงที่แล้วได้เป็นอย่างดี จังหวะ Neo-Soul ท่อนฮุกติดหูบวกกับกรูฟเท่ๆอันเป็นเอกลักษณ์ของ Pharrell Williams ช่วยให้เพลงไหลลื่นและลงตัว ผมเชื่อว่าหลายคนต้องชื่นชอบเพลงนี้ (ได้ข่าวว่าเพลงนี้เริ่มถ่ายเอ็มวีแล้ว)
I didn't wanna self destruct The evils of Lucy was all around me So I went runnin' for answers
ดูเหมือนว่า part นี้เคนดริกกำลังหาทางสงบสติด้วยการกลับบ้าน กลับไปหาคนที่คุ้นเคยตามชื่อเพลง Momma แร็พสไตล์อาร์แอนด์บีฟังได้เรื่อยๆแล้วตบท้ายด้วยแร็พอันสนุกสนาน ถัดไปโทนเพลงเปลี่ยนไปในทางดาร์กขึ้นใน Hood Politics เนื้อหาจิกกัดการเมืองและวงการเพลงแร็พ
But that didn't stop survivor's guilt Going back and forth Trying to convince my self the stripes I earned Or maybe how A-1 my foundation was But while my loved ones was fighting A continuous war back in the city I was entering a new one
พาร์ทนี้ได้หยิบยกประเด็นเรื่อง เงิน เชื้อชาติ และความรุนแรง เริ่มจาก How Much A Dollar Cost แร็พกลิ่นอาย Jazz-soul มีความหนักแน่นมากๆ ได้ James Fauntleroy มาร้องฮุกแจมเคลิ้มได้อีก Complexion (Zulu Love) พูดถึงประเด็นที่สบายๆเกี่ยวกับความรักที่ไม่แบ่งแยกเรื่องสีผิว ได้ Rapsody แร็พปิดท้าย
The Blacker The Berry ซิงเกิ้ลที่สองเพลงโทนดาร์กส่งท้ายอัลบั้มชุดนี้ เคนดริกโยนประเด็นเรื่องอคติและการกระทำความรุนแรงที่มีต่อคนผิวสีที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันได้อย่างถึงพริกถึงขิงเลยทีเดียว ต่อด้วย You Ain't Gotta Lie แก้เลี่ยนซักนิด ฟังดูแล้วอาจไม่มีนัยสำคัญอะไรมาก แต่ฟังได้เรื่อยๆ ปล่อยผ่านไปไม่ได้อยู่ดี
(ขออธิบายคำว่า Negus นิดนึง มันเป็นภาษาเอทิโอเปียที่แปลว่า Black King)
ข้าพเจ้ารู้สึกชอบ i ในเวอร์ชั่นนี้อยู่ไม่น้อย นอกจากจะครื้นเครงแล้ว มันเป็นแทร็คที่มาเติมเต็มความรู้สึกรักตัวเองได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เคนดริกใส่ความเนื้อน้อยต่ำใจไว้ซะเยอะในหลายๆแทร็คที่ผ่านมา
ปิดท้ายด้วยแทร็คยาว 12นาทีอย่าง Mortal Man ที่ถามหาความซื่อสัตย์ของแฟนเพลงที่มีต่อเขาดั่งท่อนฮุกที่ว่า When shit hit the fan, is you still a fan? และเชิดชูสรรเสริญผู้นำทางการเมืองอย่าง Nelson Mandela , Martin Luther King Jr. และ Malcolm X
A war that was based on apartheid and discrimination Made me wanna go back to the city and tell the homies what I learned The word was respect Just because you wore a different gang colour than mine's Doesn’t mean I can’t respect you as a black man Forgetting all the pain and hurt we caused each other in these streets If I respect you, we unify and stop the enemy from killing us But I don’t know, I’m no mortal man, maybe I’m just another nigga
หลังจากต่อกลอนจบแล้ว เคนดริกก็ได้ชุบชีวิตราชาเพลงแร็พ 2Pac ขึ้นมาอีกครั้ง นับว่าเป็นการสร้างความท้าทายให้กับสาวกเดนตาย 2Pac อย่างแรง ที่มาของเสียง 2Pac มาจากบทสัมภาษณ์ในปี 1994 ในรายการวิทยุ Swedish radio show P3 Soul ซึ่งเสมือนว่า เคนดริกกำลังพูดคุยกับ 2Pacในนิมิตแห่งความฝันอยู่ ซึ่งมันไม่ต่างอะไรกับเทคนิค Hologram ที่ใช้ในคอนเสิร์ตรวมดาวฮิพฮอพ Dr.Dre Snoop Dogg ที่เคยชุบชีวิต 2Pacให้มาอยู่ร่วมเวทีมาแล้ว
ข้าพเจ้าเองก็ได้สืบทราบที่มาของชื่ออัลบั้มดั้งเดิมก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น TPAB อย่าง Tu Pimp A Caterpillar ซึ่งมีนัยยะว่า TUPAC นั่นเอง
การเดินทางตลอด 79 นาทีก็ได้สิ้นสุดเสียที มาถึงการสรุปภาพรวมของอัลบั้มเสียทีอัลบั้ม To Pimp A Butterfly ชุดนี้ภาคดนตรีก็ดาร์กแบบไม่เลี่ยนจนเกินไป ฮิพฮอพแจ๊สเคล้ากับโซลได้อย่างลงตัว มีการจัดเรียงแทร็คได้อย่างลงตัวมากๆ ทุกๆเพลงนั้นมี hint ทิ้งไว้เกือบทุกเพลงผ่าน กลอนของเคนดริกที่พูดกรอกหูปิดท้ายแทบจะทุกเพลง ตอนแรกผมก็รำคาญนะแต่กลอนนี้ใส่ hint บ่งบอกทิศทางของคอนเซปต์ในเพลงถัดไปนั่นเอง มันทำให้เราได้เห็น self development ทางความคิดของตัวศิลปินแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป ผ่านบทเรียนที่เรียกว่า ประสบการณ์ของชีวิต ว้าว ! อัจฉริยะโคตรๆใส่ใจทุกรายละเอียดทั้งภาคเนื้อหาและภาคดนตรีจริงๆ จุดนี้ทำให้อัลบั้มชุดนี้มีความเป็นเอกภาพสูง นี่แหละครับคือสิ่งที่ผมชอบผลงานชุดนี้โคตรๆ อัลบั้มชุดนี้จึงเป็นอัลบั้มที่ฟังแบบผ่านๆไม่ได้เลยล่ะครับ เพราะท่านเองอาจจะไม่เก็ทเลยว่า อัลบั้มชุดนี้มันมีดีอย่างไร ตัวศิลปินต้องการจะสื่อสารอะไรให้กับคนฟังกันแน่ คุณต้องฟังตั้งแต่ต้นจนจบทั้งอัลบั้มครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น