วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

[รีวิวอัลบั้ม] My Beautiful Dark Twisted Fantasy-Kanye West (ฉบับครบรอบ 5 ปี)

โลกแห่งจินตนาการสุดแสนพิศดารของคานเย




ผมจำได้ว่าปี 2010 เป็นปีทองแห่งวงการฮิพฮอพอย่างแท้จริง แร็พเปอร์ระดับซุปตาร์ ไม่ว่าจะเป็น Eminem ปล่อยอัลบั้ม Recovery ผลงานที่สามารถกู้ชื่อเสียงของเอมิเน็มได้อีกครั้ง แร็พเปอร์แห่งเมืองแคนาดาซึ่งตอนนี้กลายเป็นแร็พเปอร์ระดับไอคอนประดับวงการเพลงไปแล้วอย่าง Drake ก็ปล่อยผลงาน Thank Me Later แจ้งเกิดได้อย่างสวยงาม ในช่วงปลายปี 2010 มีแร็พเปอร์ซุปตาร์รายนึงโชว์เทพปล่อยผลงานระดับมาสเตอร์พีชส่งท้ายปีด้วย ซึ่งแร็พเปอร์รายนั้นก็คือ Kanye West นั่นเอง วันนี้ผมขอหยิบผลงานชิ้นเด็ดซึ่งเป็น Studio album ชุดที่ 5 ที่มีชื่อโคตรยาวว่า My Beautiful Dark Twisted Fantasy  มารีวิวเล่าสู่กันฟัง

ก่อนที่อัลบั้มนี้จะวางแผง ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องปกอัลบั้มที่เป็นงานศิลป์ที่ ตา Yeezy ถือขวดเหล้า กำลังมีอะไรกับ สัตว์ประหลาดผู้หญิงหน้าตาอัปลักษณ์มีปีก บนโซฟาสีฟ้า ว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ที่จะวางแผงขาย จนเกิดกระแสต่อต้านมากมายในภายหลัง จนต้องเปลี่ยนปกอีกหนึ่งเวอร์ชั่น ซึ่งเป็นภาพผู้หญิงสวมชุดดำถือแก้วแชมเปญตามภาพที่เห็น 

ขอบอกก่อนครับว่า เป็นอัลบั้มที่มีโปรดักชั่นแน่นคับแผ่น แถมอัลบั้มนี้ยังมียอดขายในระดับแพลทินั่ม และเป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดในปี 2010 อีกด้วย แต่ละแทร็คนี่ยาวมาก แสดงให้เห็นถึงความครีเอทีฟอะไรใหม่ๆในงาน hiphop ของ คานเย ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ไม่เป็น hiphop ที่เกลื่อนตลาดแน่นอน

ขอแปะคลิปหนังสั้นของคานเย ชื่อว่า Runaway บ่งบอก concept ของอัลบั้มนี้ได้อย่างครบถ้วนฮะ ภาพสวยมากแถมได้ทดลองฟังเพลงจากอัลบั้มนี้ด้วย คุ้มนะครึ่งชั่วโมงเอง อ่านรีวิวก่อนแล้วค่อยดูก็ได้ครับ




เริ่มด้วย Dark Fantasy  Intro เกริ่นนำด้วยการพูดที่ดูเหมือนเล่านิทานเหมือนนิยายแฟนตาซีทั่วไป และแอบบิดเสียงให้ดูตรงกับ concept  อัลบั้ม ซึ่งเป็นเสียงของ Nicki Minaj นั่นเอง ต่อด้วยท่อนฮุคที่เป็นการร้องประสานเสียงที่ทำออกมาได้ดีมากๆฮะ อลังการสุดๆ การแร็พที่ค่อนข้างลื่นไหลของ  Kanye West และ ท่อนแยกของ Bon Iver ที่เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของเพลงนี้เลย เป็นแทร็คเปิดที่ทำได้ดีและอลังการมากฮะ บ่งบอก concept ของอัลบั้มนี้ได้ดีฮะ ต่อด้วย Gorgeous  hip hop บวก ร็อค ความยาวเพลงเกือบ 6 นาที แต่ฟังได้เพลินๆ Kid Cudi ร้องฮุกนำ การแร็พที่เป็นจังหวะของ Raekwon  ปิดท้ายด้วยรีฟกีตาร์เท่ห์ๆ จบเพลงได้พีคและดีมากๆ



Power  Lead Single ที่โดดเด่นด้วยบีทมันส์ๆ พร้อมการแร็พที่มีพลังของ yeezy  ทำออกมาได้สมชื่อเพลงจริงๆ ที่บ่งบอกถึงพลังอันยิ่งใหญ่ อหังการไปตามอีโก้คนแร็พ เอ็มวีก็ทำได้อลังการ ภาพสวยมาก แถมแรงด้วย ถ้าไม่ใช่คานเย ทำแบบนี้ไม่ได้ 



ส่วน Power เวอร์ชั่นรีมิกซ์ได้ Jay-Z และ Swizz Beatz มาร่วมแจม
เวอร์ชั่นนี้จะยาวเป็นพิเศษ แต่ท่อนสุดท้ายคานเยแร็พได้มันส์โคตร เป็นเพลงฮิพฮอพเวอร์ชั่นรีมิกซ์ที่ผมชื่นชอบมากที่สุดเลยล่ะครับ


All Of the Lights  เป็นซิงเกิ้ลที่ถูกปล่อยออกมาทางคลื่นวิทยุบ้านเรา ซึ่งผมก็ดีใจมากฮะ ฟังแล้วอยู่เหมือนในขบวนพาเหรดเลย ห่านร้องท่อนฮุคนำ และยังพาเหรดขนศิลปินรับเชิญเพียบ ทั้ง Alicia Keys, Charlie Wilson, Elly Jackson, Elton John, Fergie, John Legend, KiD CuDi, Rihanna, Ryan Leslie, The-Dream และ Drake  มาร้องนิดร้องหน่อย ช่วยประสานเสียงกันไป เรียกได้ว่า ยกขบวนเอาแขกรับเชิญระดับบิ๊กๆป็อบๆ มาไว้คับเพลงเลยที่เดียว ซึ่งเป็นอะไรที่ยากมากครับ ถ้าจะเอามาไว้ในเพลงเดียวถ้าเปิดเพลงนี้ตอนที่เดินทางนั่งชมแสงไฟในเมืองล่ะก็ ได้ฟินสุดๆ ตามชื่อเพลงเลย 5555 


Monster (ft. Jay-Z, Rick Ross, Nicki Minaj & Bon Iver) เป็นแทร็คจังหวะสนุกๆ ฟังแล้วนึกถึงเพลงชนเผ่า ที่มีบีทแรงๆเพิ่มเข้ามาด้วย การคุมเกมแร็พที่ทำได้ดีเสมอต้นเสมอปลายของ Yeezy และ Jay-Z  และที่เด็ดสุดก็คือ verse 3 ของ Nicki ที่แร็พได้อย่างมันส์ คล่องตัว ตามจังหวะได้ดี ไม่แพ้ผู้ชายเลยทีเดียว โดดเด่นกว่าฝ่ายชายด้วยซ้ำ ผมว่าเพลงนี้นิคกี้แร็พได้ดีที่สุดครับ แถมยังแอบจิกกัด Lil Kim อย่างเมามันส์ ก่อนจะปิดท้ายด้วย Outro ของ Bon Iver ฟังสนุก มันส์ดี  



So Appalled (ft. Jay-Z, Pusha T, CyHi Da Prynce, Swizz Beatz & RZA) แขกแร็พเชิญเยอะมว๊าก แร็พกันทีละท่อน ออกแนวโทนหม่นๆ สามารถบอกความเป็น hip hop ได้อย่างดี แร็พประชดประชัน เสียดสีตามประสาคนผิวดำ เพลงลากยาวถึง 6 นาทีกว่าที่ทำให้ผมไม่ค่อยเบื่อเลย กลับชอบด้วยซ้ำ พร้อมกับวลีติดหู 


Champagne wishes, 30 white bitches
I mean the shit is, fucking ridiculous Fucking ridiculous, I mean the shit is Fucking ridiculous 


วลีดังกล่าวดูเหมือนเสียดสีคนรวย ท่อนแร็พที่ผมชอบสุดคือ ท่อนของ Jay-z ฮะ แร็พที่ดุดัน สำผัสคำที่ทำได้ดีในแต่ละท่อน เป็นไฮไลท์ของเพลงนี้ไปเลย


Devil In A New Dress (ft. Rick Ross) เดินเบส เคล้ากับแซมเปิ้ลเพลง Will You Love Me Tomorrow ของ Smokey Robinson ที่เข้ากันได้ดีกับการแร็พที่ดูเหมือนจะพูดซะมากกว่าของ Yeezy และยังได้ตาอ้วนดำ Rick Ross มาแร็พให้ด้วยกลอนแร็พมันส์ๆ อีกเช่นเคย บวกกับโซโลกีตาร์เท่ๆ เป็นการปิดท้ายเพลง




มาถึงแทร็คที่ผมคิดว่าเด็ดดวงสุดๆอย่าง Runaway (ft. Pusha T)  ซิงเกิ้ลแรกที่ถูกปล่อยออกมาในบ้านเรา เป็นเพลงที่ผมชอบมากที่สุดในอัลบั้มนี้เลยก็ว่าได้ และเข้าถึงได้ไม่ยาก intro ด้วยการเคาะเปียโนช้าๆ impact แรงๆ beat เน้นๆ ท่อนฮุคที่ค่อนข้างหนักแน่น ดูรู้เลยว่าเป็นเพลงอกหักแน่ๆ ประมาณว่า ก็ฉันมันเลวนี่ ดีแล้วที่เธอควรหนีออกไปจากฉัน เนื้อหาอาจจะดูธรรมดา หาฟังได้ตามเพลงฝรั่งหรือเพลงไทยทั่วไป แต่ Hilight เด็ดมันอยู่ที่ เสียง synthesizer ที่ทำให้ดูเหมือนว่ากำลังร้องไห้คร่ำครวญที่ลากยาวไปถึง 3 นาทีสุดท้าย ตอนแรกฟังแล้วรู้สึกรำคาญและก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันจะลากยาวไปถึงไหน เมื่อไหร่จะจบซะที แต่พอฟังไปนานๆ อ่อ ยังงี้นี้เอง ได้ฟิลลิ่งคนอกหักดีแต่ออกจะเวอร์ไปหน่อย 5555 เพลงนี้ยาวที่สุดในอัลบั้มแล้วล่ะ 9 นาทีกว่า

Hell Of A Life แทร็คสนุกๆ ที่ติดหูได้ไม่ยากมากอีกหนึ่งเพลง เพลงนี้พูดถึง ความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยราบรื่นกับแฟนเก่า Amber Rose ซึ่งตอนนี้ยังเป็นคู่กัดกับคานเยมาจนถึงทุกวันนี้ แอบหื่นนิดตามท้องเรื่อง ท่อน Outro ทำได้ดีเด็ดอีกเช่นเคย ครับ  




แทร็คนี้ก็เด็ดดวงอีกเช่นกัน Blame Game (ft. John Legend)  เปียโนเด่นมากครับเพลงนี้ ฟังแล้วผ่อนคลายดี ต้องขอยกความดีความชอบให้กับ John Legend ผู้ปราดเปรื่องเสียงร้องและเปียโน อีกเช่นเคย การแร็พที่เคล้ากะเสียงเปียโน กับไฮไลท์เด็ดอยู่ท่อนสอง ที่เป็นการแร็พผ่านโทรศัพท์ เป็นอะไรที่มีมิติซักเหลือเกิน ถ้าได้ฟังเพลงนี้ผ่านหูฟังดีๆ เหมือนมีคนมาพูดผ่านหูซ้ายหูขวา ตลอดเวลาสลับกัน นี่แหละคือเหตุผลที่ผมให้คะแนนเต็ม พอฟังไปนานๆปุ๊ป ก็มีบทสนทนาที่เกี่ยวกับเรื่องบนเตียงล้วนๆ ติดเรทฮะ ประมาณว่า ใครสอนเธอมาเนี่ย เรื่องท่าทางบนเตียงทำไมเธอเก่งจัง เธอคนนั้นก็บอกว่า Yeezy สอนชั้นเองล่ะ ลากยาวประมาณ 2 นาทีกว่า วลีที่ว่า "Yeezy Thaught You Well" ได้กลายเป็นวลีสุดฮิตของคานเยมาจนถึงทุกวันนี้


Lost In The World  เป็นแทร็คปิดที่ฟังแล้วดูสว่างขึ้นมาทันที เหมือนหลงไปอยู่อีกโลกนึงของ yeezy หลังจากหลายเพลงที่ผ่านมา ดูมืดหม่นซะเยอะ ฟังแล้วเหมือนอยู่งาน carnival เลย ดนตรีบรรเลงและการประสานเสียง ขอยกให้ Bon Iver เค้าเก่งด้านนี้จริงๆ Yeezy อาจแร็พน้อยหน่อย แต่เป็นแทร็คปิดอัลบั้มที่จบได้สวย ก่อนที่จะมีการกล่าวสุนทรภจน์ในแทร็คต่อไปอย่าง Who Will Survive In America



เป็นอัลบั้ม hip hop ที่ดูไฮโซเอามากๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Yeezy เลยทีเดียว โดดเด่น มี detail เยอะมาก ถ้าฟังครั้งแรก ไม่ต้องแปลกใจครับว่าเป็นอัลบั้มที่ฟังยากมากครับ แต่ถ้าคุณได้ฟังหลายๆครั้ง กลับรู้สึกว่า เห้ยมันอลังการโคตรๆ สมคำล่ำลือ ไม่แปลกใจเลยว่า นี่คืออัลบั้มที่ดีที่สุดของคานเย ส่วนเรื่องคำหยาบคายที่ดูเหมือนจะมีเยอะแต่ไม่เป็นปัญหาในเรื่องความไม่เสนาะหูแต่อย่างไร เพราะเรื่องของดนตรีออเคลสตร้าที่เอามา mix ได้อย่างลงตัว บวกกับ โปรดักชั่นระดับเทพ มันเป็นผลงานที่ยกระดับความเป็นฮิพฮอพไปอีกขั้นหนึ่งเลย แนะนำให้ฟังเต็มอัลบั้ม

การที่ได้ฟังอัลบั้มนี้ทำให้ผมรู้ว่าต่อให้คูณเกรียนหลุดโลกแค่ไหน ถ้างานเพลงออกมาได้ดีขนาดนี้ แฟนเพลงก็จะศรัทธาในตัวคุณอย่างแน่นอน พร้อมที่จะติดตามงานของคุณต่อไป 

ฝีมือล้วนๆเท่านั้นถึงจะอยู่รอด


Top Tracks : อยากให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ

Give  9.5/10



Thanks For Reading

See Ya

FB : https://www.facebook.com/fungpaifungma


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น